บทความจากนิตยสาร add Free Magazine
ป้องกันและตอบโต้ (ด้วยเคล็ดวิชา มวยไชยา)
...โดย แหลมทอง ศิษย์ครูทอง
...โดย แหลมทอง ศิษย์ครูทอง
ลูกไม้คือ...รหัสลับ (ฉบับที่ 6 / มิ.ย. 2554)
...คุณรู้หรือไม่ว่า ลูกไม้มวย ที่ได้เห็นได้เห็นได้ยินกันชินตา ลูกเด็กเล็กแดงทำท่าตามพี่จา พนม องค์บาก ๑ กันเป็นที่สนุกสนานตอนที่หนังเรื่องนี้ดังข้ามโลกนั้น แต่สำหรับมวยไทยในอดีต ชื่อและท่าลูกไม้มวยนี่ถือว่าเป็น รหัสลับ นะครับ สงวนไว้เฉพาะนักมวยแต่ละค่าย,ครูรู้กันเท่านั้น ไม่ได้เอิกเกริกรู้ไปทั่วกันอย่างทุกวันนี้หรอกครับ จะมีบางท่าเท่านั้นที่เห็นใช้กันประจำจนเป็นท่าลูกไม้มาตรฐานที่ได้รับการรับรองในวงการมวยไป อย่างท่าเตะต่อยพื้นๆ ทั่วไป
...ที่เป็นเช่นนี้เพราะครูมวยแต่ละค่ายย่อมต้องมี ไม้เด็ด ไม้ตาย ซุกเอาไว้แก้ทางมวยให้ลูกศิษย์เวลาขึ้นชกยังไงล่ะครับ ครูมวยจะมีท่าลับเฉพาะฝึกกันเป็นการภายใน เมื่อเห็นนักมวยฝ่ายตรงข้ามมักจะออกอาวุธท่าใดท่าหนึ่งซ้ำๆ ถนัดอาวุธใด หรือมีจุดอ่อนตรงไหน ครูมวยก็จะตะโกนบอกชื่อท่าไม้แก้ซึ่งก็คือ ลูกไม้ ให้กับศิษย์ของตน ไว้แก้ทางมวยฝ่ายตรงข้าม
...คุณรู้หรือไม่ว่า ลูกไม้มวย ที่ได้เห็นได้เห็นได้ยินกันชินตา ลูกเด็กเล็กแดงทำท่าตามพี่จา พนม องค์บาก ๑ กันเป็นที่สนุกสนานตอนที่หนังเรื่องนี้ดังข้ามโลกนั้น แต่สำหรับมวยไทยในอดีต ชื่อและท่าลูกไม้มวยนี่ถือว่าเป็น รหัสลับ นะครับ สงวนไว้เฉพาะนักมวยแต่ละค่าย,ครูรู้กันเท่านั้น ไม่ได้เอิกเกริกรู้ไปทั่วกันอย่างทุกวันนี้หรอกครับ จะมีบางท่าเท่านั้นที่เห็นใช้กันประจำจนเป็นท่าลูกไม้มาตรฐานที่ได้รับการรับรองในวงการมวยไป อย่างท่าเตะต่อยพื้นๆ ทั่วไป
...ที่เป็นเช่นนี้เพราะครูมวยแต่ละค่ายย่อมต้องมี ไม้เด็ด ไม้ตาย ซุกเอาไว้แก้ทางมวยให้ลูกศิษย์เวลาขึ้นชกยังไงล่ะครับ ครูมวยจะมีท่าลับเฉพาะฝึกกันเป็นการภายใน เมื่อเห็นนักมวยฝ่ายตรงข้ามมักจะออกอาวุธท่าใดท่าหนึ่งซ้ำๆ ถนัดอาวุธใด หรือมีจุดอ่อนตรงไหน ครูมวยก็จะตะโกนบอกชื่อท่าไม้แก้ซึ่งก็คือ ลูกไม้ ให้กับศิษย์ของตน ไว้แก้ทางมวยฝ่ายตรงข้าม
...ชื่อลูกไม้มวยในยุคก่อนจึงเป็นชื่อเฉพาะที่อีกฝ่ายไม่รู้ว่าจะเป็นท่าอะไรไงครับ เพราะถ้ารู้กันทั่วอย่างทุกวันนี้ละก็พอครูมวยตะโกนบอกเพื่อแก้ทาง ฝ่ายตรงข้ามก็รู้และรีบปิดจุดอ่อน หรือเปลี่ยนเกมการเล่นใหม่ได้ เสียแผนหมดเลยครับ
ลูกไม้มวย - หกกลับทับปฐพี |
...ยกตัวอย่าง ฝ่ายแดงถนัดเตะตัดด้วยแข้งซ้าย เมื่อชกหมัดแล้วต้องเตะตัดซ้ายเสมอๆ ครูมวยฝ่ายน้ำเงินก็จะตะโกนบอกนักมวยฝ่ายตนว่า “ทับปฐพี” (หกกลับทับปฐพี) ซึ่งก็คือกลมวยท่าตีศอกกลับ ที่รู้จักกันในชื่อ “วิรุฬหกกลับ” นั่นเอง (หรืออาจมีชื่ออื่นๆ อีกก็เป็นได้) ฝ่ายน้ำเงินเมื่อได้ยินครูบอกก็รู้กัน และรอจังหวะแก้ทางการเตะซ้ายของฝ่ายแดง(ที่คิดว่าตนเตะหนัก) ด้วยการกดศอกเข้าที่หน้าเข่าหน้าแข้งที่เตะมาพร้อมพลิกตัวตีศอกกลับเข้าที่ศีรษะหรือเบ้าตาฝ่ายแดง ท่านี้ถึงกับแตกได้เลยนะครับ
...เวทีมวยเปรียบเหมือนกระดานหมากรุก ให้ครูมวยแต่ละฝ่ายได้เล่นประลองปัญญากันแหละครับ ลองคิดดูหากลูกไม้กลมวยเป็นที่รู้จักกันกว้างขวางอย่างทุกวันนี้ คงเป็นการยากที่จะแก้ทางมวยกันได้เพราะรู้ยุทธศาสตร์ของฝ่ายตรงข้ามกันหมดแล้ว จะอัดกันหนักๆ ด้วยแรงอย่างเดียวเดี๋ยวก็จอดไปไม่ถึงยกสิบเป็นแน่... (ยุคคาดเชือกไม่ได้ชกกัน 5 ยกแบบปัจจุบันนะครับ ไว้โอกาสหน้าจะสาธยายให้ฟังครับ)
...ที่สำคัญที่สุดคือ ลูกไม้กลมวยต่างๆ เหล่านี้กำลังกลายเป็นเพียงท่าแสดงสวยงามเอาไว้ระลึกถึงอดีตที่ยิ่งใหญ่ของมวยไทยเท่านั้น หลายคนไม่เชื่อด้วยซ้ำไปว่าท่าลูกไม้มวยจะเอามาใช้ได้จริง ซึ่งเป็นเรื่องน่าเป็นห่วงระดับชาติเลยนะครับท่านผู้อ่าน
...เมื่อขาดศาสตร์ก็ขาดศิลป์ ไม่เพียรฝึกใช้ก็ใช้ไม่คล่อง พอไม่คล่องก็ใช้ไม่ทันการ แล้วบอกใช้ไม่ได้ เมื่อใช้ไม่ได้ก็ไม่ฝึก และคิดว่าท่าลูกไม้ใช้ไม่ได้ผล ระดับการเรียนการสอนก็ยุบเลิกท่านั้นๆ ไป สุดท้ายก็มองว่าเป็นแค่ท่าโชว์ หรือไม่ก็อันตรายเกินไปในบางท่าตั้งกฏขึ้นมายกเลิกป้องกัน สุดท้ายมวยไทยจะเหลือแต่รูปแบบมวยครับ ส่วนรูปลักษณ์ลีลาอย่างโบราณที่งดงามจะสูญหายไป น่าห่วงครับ...
* เอื้อเฟื้อภาพ " ลูกไม้ " โดย... คุณหญิง บ้านไชยารัตน์ ขอบคุณครับ